Powered By Blogger

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วิธีสังเกตว่าของแท้หรือของปลอม


John Varvatos นักออกแบบแบรนด์ดังระดับหัวกะทิของนัก design ชั้นแนวหน้าที่อเมริกา ที่ถูกเปรียบว่าเป็นเหมือนการรวมตัวระหว่างนักหัตถศิลป์กับความประณีตละเอียดลออในการตัดเย็บเสือผ้าเพื่อการสร้างงสรรค์ผลงานสมัยใหม่กับสิ่งทอผสมกลิ่นไอสัมผัสของ rock 'n' roll เขาเริ่มเปิดตัวในต้นในปี 2000 กับชุด collecttion การตัดเย็บเสื้อผ้ากับชุดกีฬา ซึ่งต่อมาได้คลอบคลุมไปทั่วทุกรูปแบบของการใช้ชีวิต เช่น เข็มขัด กระเป๋า รองเท้า แว่นตา ครีมบำรุงสุดหรูหรา หรือแม้กระทั้งน้ำหอมโดยเฉพาะการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการร่วมมือกับบริษัท Converse ได้เลื่อนสถานะความขลังของรองเท้า Chuck Taylor All Star กับ Jack Purcell ขึ้นจนติดลมบนทางด้านกีฬาชายหญิงถึงแฟชั่น punk แม้กระทั้งแนว vintage ในปี 2006John Varvatos ถูกดลใจไปด้วยความลุ้มหลง และความมุ่งมั่นคิดริเริ่ม และถูกจัดว่าเหมือนอัจฉริยะทางการดนตรี จนสามารถเห็นความเป็นเอกลักษณ์เด่นของเขาออกมาทุกๆงานออกแบบของสินค้าJohn Varvatos ได้รับการยอมรับโดย CFDA กับ Perry Ellis Award สำหรับรางวัล นักออกแบบชุดแต่งกายชายในปี 2000 และรางวัลนักออกแบบชุดแต่งกายชายยอดเยี่ยมประจำปี 2001 และ 2005 ในธันวาคมปี 2007 เขาถูกขนานนามโดยนิตยสาร GQ ว่า "นักออกแบบแห่งปี" ในเล่มฉลองครบรอบ 12ปีในช่วงปี 2000 ขณะเดือนของการโชว์ชุด collection แรกของเขา John Varvatos ได้เปิดร้านขายสินค้าเล็กๆของเขาขึ้นใน Soho ตามมาด้วยร้านที่ใหญ่ขึ้นใน Los Angeles ในปี 2002, Las Vegas ในปี 2003, Costa Mesa ใน California พฤศจิกายน 2005, พฤษภาคมปี 2007 ที่ New York และในฤดูใบไม้ผลิ ร้านท้ายสุดที่ San Francisco
ของแท้ : โลโก้มีความชัดเจนเป็นรูปดาวและมีลายเซ็น Chuck Taylor อยู่บนโลโก้ด้วย
ของปลอม : โลโก้ดูมัวๆดูน่าเกรียดดูยังไงก็ไม่ใช่แน่นอน และเปลี่ยนแปลงคำบางคำของชื่อสินค้าด้วย


ของแท้ : ป้ายสลิปจะปักด้วยฝีเข็มแบบถี่ โลโก้นูนดูชัดเจน เมื่อสัมผัสจะลื่นๆ
ของปลอม : ลักษณะการปักจะเป็นแบบตารางดอทดังภาพ ดูไม่ชัดเจน สัมผัสแล้วจะสากมือ



ของแท้ : ขีดรอบเล็กจะมีความชัดเจน เก็บงานได้เนี๊ยบเข้ากับทรงรองเม้าที่เห็นได้ชัดเจน
ของปลอม : จากภาพของปลอมจะผิดรูปบิดเบี้ยวไม่ได้ทรง และหัวจะป่องกว่าของจริง


ของแท้ : แท็กกระดาษมีความน่าเชื่อถือ มีรูปภาพพิมพ์และคุณสมบัติต่างๆอย่างชัดเจน
ของปลอม : แท็กของปลอมจะมีข้อมูลที่ไม่เคลีย เป็นเพียงกระดาษด้อยคุณภาพแผ่นบางๆ ที่ไม่มีข้อมูลการรับประกัน หรือเอกสารการผลิตที่สำคัญอื่นๆ เมื่อนำมาจุ่มน้ำสีจะตกด้วยครับ

จากภาพจะมีความแตกต่างกันที่ขอบยางและป้ายที่ชัดเจนถึง 3 จุด ที่สำคัญเวลารองเท้านำมา หัก, บิด เวลาเดินหรือทำกิจกรรมต่างๆ ยางจะไม่ปริออกจากตัวขอบผ้าครับ




โลโก้พิมพ์ลายชัดเจนไม่จืดหรือไม่แตกตัวเมื่อโดนการเสียดสี


ของแท้จะมีปุ่มยางส่วนเกินเล็กๆที่เกิดจาก บล็อกแม่พิมพ์ ผลิตรองเท้า Converse ที่มีมาแต่ช้านาน และยางที่พื้นของแท้จะมีความยืดหยุ่นสูงใช้เล็บจิกจะคืนรูปได้รวดเร็ว ส่วนของปลอมจะเป็นยางคุณภาพต่ำลักษณะแข็งเหมือนพลาสติกลื่นไถลได้ง่าย

กระดาษห่อรองเท้าจะแตกต่างอย่างเห็นไชดเจน








John Varvatos

John Varvatos นักออกแบบแบรนด์ดังระดับหัวกะทิของนัก design ชั้นแนวหน้าที่อเมริกา ที่ถูกเปรียบว่าเป็นเหมือนการรวมตัวระหว่างนักหัตถศิลป์กับความประณีตละเอียดลออในการตัดเย็บเสือผ้าเพื่อการสร้างงสรรค์ผลงานสมัยใหม่กับสิ่งทอผสมกลิ่นไอสัมผัสของ rock 'n' roll เขาเริ่มเปิดตัวในต้นในปี 2000 กับชุด collecttion การตัดเย็บเสื้อผ้ากับชุดกีฬา ซึ่งต่อมาได้คลอบคลุมไปทั่วทุกรูปแบบของการใช้ชีวิต เช่น เข็มขัด กระเป๋า รองเท้า แว่นตา ครีมบำรุงสุดหรูหรา หรือแม้กระทั้งน้ำหอมโดยเฉพาะการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการร่วมมือกับบริษัท Converse ได้เลื่อนสถานะความขลังของรองเท้า Chuck Taylor All Star กับ Jack Purcell ขึ้นจนติดลมบนทางด้านกีฬาชายหญิงถึงแฟชั่น punk แม้กระทั้งแนว vintage ในปี 2006John Varvatos ถูกดลใจไปด้วยความลุ้มหลง และความมุ่งมั่นคิดริเริ่ม และถูกจัดว่าเหมือนอัจฉริยะทางการดนตรี จนสามารถเห็นความเป็นเอกลักษณ์เด่นของเขาออกมาทุกๆงานออกแบบของสินค้าJohn Varvatos ได้รับการยอมรับโดย CFDA กับ Perry Ellis Award สำหรับรางวัล นักออกแบบชุดแต่งกายชายในปี 2000 และรางวัลนักออกแบบชุดแต่งกายชายยอดเยี่ยมประจำปี 2001 และ 2005 ในธันวาคมปี 2007 เขาถูกขนานนามโดยนิตยสาร GQ ว่า "นักออกแบบแห่งปี" ในเล่มฉลองครบรอบ 12ปีในช่วงปี 2000 ขณะเดือนของการโชว์ชุด collection แรกของเขา John Varvatos ได้เปิดร้านขายสินค้าเล็กๆของเขาขึ้นใน Soho ตามมาด้วยร้านที่ใหญ่ขึ้นใน Los Angeles ในปี 2002, Las Vegas ในปี 2003, Costa Mesa ใน California พฤศจิกายน 2005, พฤษภาคมปี 2007 ที่ New York และในฤดูใบไม้ผลิ ร้านท้ายสุดที่ San Francisco

Chuck Taylor All-Star

          Chuck Taylor All-Star หรือที่รู้จักกันในนาม Converse All-Star เป็นรองเท้าผ้าใบพื้นยางหน้าตาธรรมดา ผลิตโดย Converse เมื่อปี 1971 ด้วยความมุ่งหมายจะเจาะตลาดรองเท้าบาสเก็ตบอล แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม จนกระทั่งนักบาสฯ นาม Chuck Taylor ชอบถูกใจ เอามาใส่และเป็นตัวแทนขายซะเอง ซึ่งเป็นที่มาของลายเซ็น Chuck Taylor บนแผ่นกลมๆ บนรองเท้านั่นเอง


          ตอนแรกมีแค่สีดำ แต่ต่อมาก็เริ่มทำออกมาหลายสีเพื่อให้เข้ากับชุดทีมแต่ละทีม และก็เริ่มมีหลายแบบมากขึ้น เช่น หุ้มส้นไม่หุ้มข้อ หรือหุ้มไปจนถึงเข่าเลยก็มี วัสดุก็เริ่มหลากหลายมากขึ้น เอานู่นเอานี่มาทำนอกเหนือจากผ้าใบดั้งเดิม ซึ่ง Chuck Taylor ก็มีส่วนร่วมช่วยออกแบบ ก่อนจะตายจากไปในปี 1969
          ต่อมาบริษัท Converse ถูก Nike ซื้อไป และย้ายฐานการผลิตจากในสหรัฐฯ ออกไปผลิตในประเทศโลกที่สาม ซึ่งชาวพั้งค์หลายคนที่นิยมรองเท้ารุ่นนี้ในตอนนั้นก็ต่อต้าน เนื่องจากเห็นว่าผลิตมาจากโรงงานนรก ใช้แรงงานมนุษย์เยี่ยงทาส ประมาณนั้น
เริ่มมีหลากแบบหลายสไตล์มากยิ่งขึ้น มีสีนู้นสีนี้ เป็นลายพิมพ์ลงไปบนผ้าก็มี เป็นที่นิยมในหมู่แฟนเพลงร็อก พั้งค์ และป๊อบในกาลต่อมา นักดนตรีของหลายๆ วงก็ใส่กัน กลายเป็นแฟชั่นไปโดยปริยาย บางคนใส่เชือกข้างละสี บางคนถึงขนาดใส่รองเท้าข้างละสี บางคนขีดเขียน เซ็นชื่อ วาดนู่นวาดนี่บนรองเท้า และอื่นๆ สาระพัด ฮิตกันมาก ขนาดที่ว่าเมื่อเข้าศตวรรษที่ 21 นั้น ขายไปแล้วกว่า 750 ล้านคู่ทั่วโลก ลูกค้าส่วนใหญ่ก็คือวัยรุ่นนี่เอง หาใช่นักบาสเก็ตบอลไม่ เพราะนักบาสฯ หันไปใส่รองเท้าเทคโนโลยีสูงๆ กันหมดแล้ว




ประวัติ Converse



Converse นั้นเป็นบริษัทผลิตรองเท้าที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐอเมริกาโดยทางบริษัทConverse Rubber Corporationได้เริ่มเปิดกิจการตั้งแต่เมื่อปี 1908ซึ่งผู้ก่อตั้งคนแรกก็คือ มาร์ควิส เอ็ม คอนเวอร์ส โดยร้านแห่งแรกที่เมืองมัลเดนมลรัฐแมสซาชูเซตส์ สำหรับจุดเปลี่ยนที่ทำให้ร้านแห่งนี้โด่งดังขึ้นนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี1917
 เมื่อมีการทำรองเท้าผ้าใบรุ่น "All-Star" ออกสู่ตลาด ในปีถัดมาชาร์ลส์ เอช ชัคเทย์เลอร์ 
บุคคลผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบริษัทแห่งนี้จึงได้เข้ามาร่วมงานด้วย 
ซึ่งตัวชัคนั้นเป็นนักบาสเก็ตบอลผู้เล็งเห็นว่า รองเท้าคอนเวอร์สนั้นจะต้องได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 
ในวงการนักบาสเก็ตบอล ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเข้าร่วมทำงานเป็นเซลส์แมนและเป็นทูตคอยโปรโมตสินค้าให้กับ 
คอนเวอร์ส โดยระหว่างเดินทางไปแข่งขันบาสเก็ตบอลทั่วทั้งสหรัฐฯ ชัคจะแนะนำรองเท้าคอนเวิร์ส์ไปด้วย 


 ทำให้คอนเวอร์สกลายเป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมทั้งในหมู่นักบาสเก็ตบอลและวัยรุ่นอเมริกันด้วยเหตุนี้ ในปี 1923 ทางคอนเวอร์สจึงนำชื่อ Chuck Taylor's ไปปรากฏร่วมกับโลโก้ของตนที่ติดอยู่บริเวณส่วนที่หุ้มข้อเท้าทำให
้ผู้คนมักเรียกรองเท้านี้ว่าชัคส์ส่วนตัวชัคเองนั้น เขาทำงานให้กับคอนเวอร์สอย่างหนัก 
ก่อนจะเสียชีวิตไปเมื่อปี 1969 อย่างไรก็ตาม รองเท้าชัคส์นั้นมีแต่สีดำและสีขาวเป็นเวลานานหลายทศวรรษ แต่เมื่อทีมบาสเก็ตบอลต่างๆต้องการที่จะให้รองเท้ามีสีอื่นๆด้วย ทำให้เมื่อปี 1966 คอนเวอร์สจึงต้องผลิตรองเท้าสีอื่นๆ
นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุอื่นๆในการทำรองเท้าด้วยเช่นหนังหนังกลับไวนีลป่านแทนที่จะเป็นผ้าใบเพียงอย่างเดียวอีกด้วย